กรุงเทพฯ 3 เมษายน –บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ “Millennium Group MGC-ASIA” เตรียมเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้กำไรโตต่อเนื่องตลาดลักชัวรี่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไม่มากนัก
นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “Millennium Group MGC-ASIA บริษัทค้าปลีกยานยนต์ นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายใน ‘Lifestyle Mobility Ecosystem’ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม รวมถึงตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำและตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์รายใหญ่ เช่น Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda, BMW Motorrad และ Harley-Davidson ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเรือยอทช์ Azimut แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเรือล่องแม่น้ำ Chris Craft รายเดียวในประเทศไทยและอาเซียนยังรับประกันรถยนต์มือสองอีกด้วย บริษัทได้ลูกค้าสำหรับการเช่าเครื่องบินส่วนตัวของ VistaJet และตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินชั้นนำ ธุรกิจให้บริการหลังการขายและบำรุงรักษารถยนต์อิสระ รถเช่า ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมคนขับ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ช่วยสร้างรายได้ในระยะยาว เช่น B. บริการทางการเงินที่ครอบคลุมสำหรับยานพาหนะระดับหรูและเรือเดินทะเล (Alpha X), ตัวกลางประกันภัย (Howden Maxi), บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล เป็นต้น Millennium Group MGC-ASIA ตั้งเป้าหมายการเติบโต โดยดำเนินกลยุทธ์หลักและขยายพอร์ตไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งและได้ร่วมลงทุนกับบริษัท เอสซีบี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท อัลฟ่า เอ็กซ์ จำกัด เพื่อนำเสนอบริการทางการเงินที่ครบวงจร คุ้มครองสินเชื่อเช่าซื้อ เช่าซื้อ และรีไฟแนนซ์รถหรูและรถทะเล เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมลักชัวรี พร้อมคาดการณ์ความต้องการประกันภัยของลูกค้ากลุ่ม จึงขยายการลงทุนในธุรกิจนายหน้าประกันภัยผ่านความร่วมมือกับ The Howden Group ซึ่งเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงระดับโลกของยุโรป การขยายตัวของระบบนิเวศธุรกิจตามกลยุทธ์ของกลุ่ม และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นางสาวเจิดนภางค์ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ตลาดลักชัวรีได้รับผลกระทบน้อยกว่าตลาดอื่นๆ เซ็กเมนต์ และในบางภูมิภาคก็สามารถเติบโตสวนทางกับแนวโน้มการขยายฐานลูกค้าด้วยอายุเฉลี่ยที่น้อยลงและความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารความเสี่ยงและการปรับกลยุทธ์ไปพร้อมๆ กัน ทำให้กลุ่มบริษัทมีผลประกอบการเติบโตอย่างมั่นคงมีกำไรสุทธิในปี 2563 2564 และ 2565 จำนวน 188.8 ล้านบาท 295.5 ล้านบาท และ 595.6 ล้านบาท ตามลำดับ และมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนลงทุนในบริษัท อัลฟ่า เอ็กซ์ จำกัด บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) โพรเคียว จำกัด รวมถึงการชำระสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ก.ล.ต. อนุมัติให้กลุ่มบริษัทเสนอขายหลักทรัพย์และอยู่ระหว่างการประเมินจังหวะเวลาและราคาเสนอขายหุ้นสามัญ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จะไม่เกิน 280,000,000 หุ้น หรือไม่เกิน 25.0% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้.–สำนักข่าวไทย