“ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ตอบชัดไม่ลงการเมือง โฟกัส CEO อสังหาฯ ลุยเป้ารายได้ 2 หมื่นล้าน
วันที่ 18 ตุลาคม 2564 นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ SC ตอบคำถามในการแถลงข่าวตอนหนึ่ง ถึงประเด็นที่มีกระแสวิเคราะห์ทางการเมืองว่า การเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า หากลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค (ในฐานะเป็นลูกเขยคนโตของ พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร)
โดยเขาตอบพร้อมรอยยิ้ม ว่า “วันนี้ถ้าไม่ถามคำถามนี้จะแปลกใจมาก ต้องบอกว่าวันนี้ ผมไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสมาชิกพรรคเพื่อไทยเลยนะครับ และวันนี้ผมเป็น CEO เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชันอยู่ ก็โฟกัสสิ่งที่ทำตอนนี้ให้ดีที่สุด เป็นการตอบที่ไม่รู้ตอบรึเปล่านะครับ” (หัวเราะ)
สำหรับแผนธุรกิจของ SC นายณัฐพงศ์กล่าวว่า สถานการณ์ของการฝ่าวิกฤตในช่วงโควิดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการปรับตัวยืดหยุ่นสูง มีการอัพเกรดองค์กรให้พร้อมและก้าวสู่การทำงานวิถี Hybrid โดยจะเริ่มตั้งแต่ พ.ย. 2564 นี้ ด้วยการเตรียมความพร้อมใน 5 เรื่องสำคัญ เพื่อการเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน รับโอกาสในการเปิดประเทศ ดังนี้
1.Liquidity (สภาพคล่อง) มีเงินสดและวงเงินพร้อมเบิกมากกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีอัตราหนี้สินต่อทุน IBD/E ต่ำกว่า 1.3 เท่า 2.Lands (ที่ดิน) ปีนี้โอนที่ดินใหม่แนวราบรวมทั้งปี 10,000 ล้านบาท สำหรับรองรับการพัฒนาโครงการในปี 2565-2567
3.Products (สินค้า) มั่นใจความพร้อมของสินค้าในสามด้านสำคัญ คือ 3.1 High Quality-มุ่งส่งมอบสินค้าคุณภาพมาตรฐานสูง แบรนด์ น่าเชื่อถือ 3.2 Human-Centric-ออกแบบและพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมโดยยึดหลักแนวคิด Human-centric โดยพัฒนา Prototype แบบบ้านและฟังก์ชั่นใหม่ที่ได้รับความนิยมสูง เช่น บ้านคนโสด, บ้านเดียวกันและ LA-NAI Series (ลาไน) พื้นที่ Semi-Outdoor มุมพักผ่อนแบบลงตัว
ล่าสุดได้เปิด แบบบ้านใหม่ ‘SC Asset: Gamer’s Dream House’ ผ่านแคมเปญพิเศษร่วมกับ 3 เกมเมอร์ชื่อดัง ซึ่งจะนำไปต่อยอดแนวคิดบ้านเพื่อคนรุ่นใหม่ หัวใจ Gen Z ในอนาคต ควบคู่ไปกับการพัฒนา Home Automation ผ่านระบบปฏิบัติการ RueJai OS เพื่อบ้านอยู่สบายไร้กังวล
3.3 Backlog & Inventory-บริษัทมียอดขายรอโอน หรือ Backlog รวมกว่า 8,500 ล้านบาท และ 50% พร้อมโอนในไตรมาส 4 ปีนี้ และเตรียมเพิ่มสต็อคพร้อมขายและโอนสำหรับแนวราบจนถึงปลายปี 2022 มูลค่ารวมมากกว่า 20,000 ล้านบาทเพื่อรองรับอุปสงค์ที่เติบโตสวนกระแสของที่อยู่อาศัยแนวราบ
4.People (ผู้คน) SC มั่นใจความพร้อมของทุกคนในองค์กรใน 3 ด้าน คือ 4.1 Safety-ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกคน พนักงานฉีดวัคซีน 2 เข็มครบ 100% และยัง เตรียม Booster เข็ม 3-4 ให้กับพนักงาน และ ครอบครัว โดยที่จะเริ่มฉีดเข็ม 3 ภายในไตรมาส 4/64 ในส่วนการฉีดวัคซีนกลุ่มแรงงานได้รับ1 ครบ 100% และเข็ม 2 ปัจจุบัน อยู่ที่ 70%
4.2 Communications-การสื่อสารทั่วถึง 3 ระดับ แบ่งเป็นการสื่อสารระดับองค์กร “Monthly All-hands Session” ทำการสื่อสารอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ เพื่อให้ทีมทั้ง 1,000 คนขององค์กรมุ่งมั่นอยู่บนกลยุทธ์และเป้าหมายเดียวกัน เป็นประจำในทุกๆ เดือน, “การสื่อสารระดับทีม SC OKRs” เป็นการสื่อสารโดยแบ่งกลุ่มแยกตามแต่ละเป้าหมายร่วมของแต่ละทีม ขับเคลื่อนการทำงานในแบบ Agile Working Team มีความรวดเร็วและคล่องตัวทันเหตุการณ์ และ “การสื่อสารระดับบุคคล-Quarterly Check-in” เป็นการสื่อสารแบบ One-on-One เพื่อให้แต่ละแผนกได้มีการพูดคุยอย่างใกล้ชิด เพื่อทราบความคาดหวังของหัวหน้างานและองค์กร ควบคู่พร้อมกับการพัฒนาทักษะที่จำเป็น
4.3 Hybrid workplace-วิถีการทำงานแบบผสมผสานสำนักงานใหญ่จะใช้วิถีการทำงานแบบไฮบริด โดยผสมผสานระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศและการทำงานที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere) ในสัดส่วน 3 : 2 วัน เพื่อส่งเสริมให้เกิด Productivity และ Creativity ให้ความอิสระในการทำงานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์วิถีใหม่ ตั้งแต่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและคู่ค้า เป็นหลัก
5.Technology (เทคโนโลยี) เพื่อความคล่องตัว รวดเร็ว แม่นยำ โดยเชื่อมโยงข้อมูลใน 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่
5.1 ERP-Enterprise Resource Planning การจัดการทรัพยากรในเรื่องของการสร้าง ซื้อ และลงทุน สำหรับรองรับการเติบโตของธุรกิจ 5.2 CRM-Customer Relationship Management การจัดการข้อมูลของลูกค้าเพื่อออกแบบและส่งมอบงานบริการแบบไร้รอยต่อทั้งงานขาย ซ่อม และดูแลลูกค้าแบบครบทุกมิติ และ 5.3 RPC-Robotic Process Automation การนำเทคโนโลยีระบบควบคุมอัตโนมัติ (Automation) มาช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ทั้งยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในขบวนการทำงาน
“ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ เราได้เรียนรู้ทักษะการปรับตัวอย่างมหาศาล เป็นการยกระดับครั้งสำคัญ วันนี้ SC เราพร้อมมากสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในบริบทของวิถีปกติใหม่” นายณัฐพงศ์กล่าวสรุป