TV Thunder ยังคงขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ส่งออกรายการวาไรตี้ของไทยไปต่างประเทศโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ขึ้น 10% ใน 64 เป็น 30 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 นายณัฐกฤต วรรณภิญโญ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ “บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจัยโควิด ยังคงส่งผลกระทบต่อวงการบันเทิงไทยทั้งในแง่ของจำนวนเงินที่ลดลงเช่นกัน ข้อ จำกัด ในการถ่ายทำเป็นผลให้ TV Thunder ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่เปลี่ยนงานและกลยุทธ์อย่างมาก
TV Thunder มั่นใจว่าสามารถเติบโตได้ 10-15% ในปี 2564 ส่วนใหญ่มาจากการจัดการต้นทุนที่เหมาะสม รวมถึงหาวิธีชดเชยรายได้ที่หายไปจากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น วาไรตี้ หรือ ซีรีย์ต่างๆ
ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว บริษัทได้ให้ความสำคัญกับช่องทางรายได้จากการขายลิขสิทธิ์เนื้อหามากขึ้น ข้อตกลงการขายเนื้อหาไปยังประเทศญี่ปุ่นได้ข้อสรุปในช่วงก่อนหน้านี้ ประเทศอื่นๆ ในเอเชียอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงด้านราคาเพื่อให้รายได้จากช่องทางนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 30 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2564
สำหรับการขายลิขสิทธิ์เนื้อหาในต่างประเทศคาดว่าส่วนแบ่งการขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต จากกระแสความต้องการคอนเทนต์ไทยที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ TV Thunder ยังเกิดแนวคิดในการขายเนื้อหาที่มีอยู่เช่น เน้นความเป็นสากลมากขึ้น เราไม่ได้มองแค่ความต้องการของประชาชนในประเทศไทยเท่านั้น แต่เรายังดูความต้องการของตลาดต่างประเทศด้วย
“ประมาณการเบื้องต้นว่าส่วนแบ่งรายได้ตั้งแต่เริ่มขายคอนเทนต์นั้นอยู่ที่ประมาณ 8-10% ของรายได้ทั้งหมด วันนี้ TV Thunder มองข้ามการหมุนเวียนของ Production of the Year 65 และเริ่มสะสมงานในมือเพื่อเตรียมพร้อม เติบโต” เมื่อสถานการณ์กลับสู่ปกติ เชื่อว่าบริษัทจะกลับมาทำกำไรได้ดีกว่าเมื่อก่อนแน่นอน”